วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

“เห็ดเผาะ”



“เห็ดเผาะ” หรือชาวล้านนาเรียกว่า”เห็ดถอบ” ทั่วโลกเขาเชื่อว่าเป็นยาที่หายากและดีมากๆ มีหลายประเทศใช้เห็ดเพาะเป็นยากระตุ้นการหลั่งเอ็นไซม์ ย่อยแป้งและน้ำตาล พูดง่ายๆก็คือ ไปเสริมและบำรุงตับอ่อนให้แข็งแรงและหลั่งอินซูลินมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่ขบวนการใช้น้ำตาลในร่างกายได้ดีขึ้น หรือพูดให้ตรงก็คือ ในหลายประเทศ เช่นอินเดีย เนปาล และหลายประเทศในแอฟริกา เขาใช้เห็ดเผาะ เป็นยาที่สำคัญในการรักษาโรคเบาหวาน ดังนั้น เวลาเขาเจอเห็ดเผาะ จะทำการถนอมเห็ดเผาะด้วยการลวกน้ำร้อน เพื่อยับยั้งเอ็นไซม์เสียก่อน แล้วเก็บไว้ในตู้เย็นชั้นแช่แข็ง เพื่อใช้สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานทานเป็นประจำ สามารถที่จะช่วยรักษาโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี โดยใหม่ๆ ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานอย่างรุนแรงและไตเริ่มเสื่อม ควรทานเห็ดเผาะร่วมกับยาควบคุมน้ำตาล แต่พอน้ำตาลสามารถควบคุมได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา แต่ให้ทานเห็ดเผาะแทนเป็นประจำ วันละดอก สองดอกก็พอ
อย่างไรก็ตาม สารที่มีคุณสมบัติเป็นยาในตัวเห็ดเผาะนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสารโมเลกุลใหญ่ ร่างกายไม่สามารถนำเอาไปใช้ได้โดยตรง นอกจากเชื้อจุลินทรีย์ในระบบย่อยทำการย่อยเสียก่อน ดังนั้น หากไม่แน่ใจว่า ร่างกายเรามีจุลินทรีย์พวกนี้เพียงพอหรือไม่ ควรนำเอาเห็ดเผาะมาผ่านขบวนการหมักเสียก่อนจะดีกว่า ซึ่งทางบ้านเราส่วนใหญ่ นิยมทานเห็ดเผาะกันเพราะมันอร่อย ใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด แต่จริงๆแล้ว เห็ดเผาะ มีคุณค่าและสรรพคุณที่มากกว่าความอร่อย ชนิดที่บางท่านอาจจะไม่รู้ว่า เห็ดเผาะนั้นเป็นยาที่สุดยอดชนิดหนึ่ง นอกจากใช้รักษาโรคเบาหวานได้โดยตรงแล้ว เห็ดเผาะยังมีสรรพคุณดังนี้ สรรพคุณและประโยชน์ของเห็ดเผาะ(คุณทรงศักดิ์ วงศ์กาฬสินธ์ ที่รวบรวมสรรพคุณเห็ดเผาะ)

– ช่วยในการบำรุงร่างกายให้ร่างกายแข็งแรง
– ช่วยรักษาอาการช้ำใน
– ช่วยป้องกันโรควัณโรค
– ช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดของเซลล์มะเร็งได้ดี
– ช่วยในการสมานแผลและผิวให้เรียบเนียน
– ช่วยในการลดอาการบวมหรืออักเสบ
– ช่วยแก้อาการร้อนใน และแก้ไข้
– ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็ว หยุดไหลได้ง่ายขึ้น
– ช่วยบรรเทาอาการคันตามนิ้วมือหรือนิ้วเท้า
ในช่วงนี้มีฝนตกลงมาทำให้อาหารประเภทของป่า เช่น กบ เขียด อึ่งอ่าง แมงเม่า แมงมัน และพืชผักนานาชนิด ทำให้ชาวบ้านมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีรายได้เสริมเป็นกอบเป็นกำในช่วงหน้าฝนนี้ โดยเฉพาะ”เห็ดเผาะ”หรือ “เห็ดถอบ” 1 ปีจะออกหนเดียวในช่วงย่างเข้าสู่หน้าฝน ช่วงแรกๆเห็ดถอบจะมีราคาสูงถึงลิตรละไม่ต่ำกว่า 300 บาท กันทีเดียว ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างแพง แต่ก็ถือว่าคุ้มได้บริโภคของสดๆจากป่า ยิ่งหาซื้อมาบริโภคในช่วงนี้ “เห็ดถอบ”กำลังอ่อนและเนื้อข้างในมีรสชาติกรอบ หอม หวาน กันทีเดียว แต่ขอเสียใจกับ ผู้ที่ไม่มีฟันไม่อาจจะขบเคี้ยวลิ้มรสชาติของมันได้ดั่งใจ
เสน่ห์ นามจันทร์/เรื่อง
ทีมงาน”เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์”/ภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น