วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2559

“เห็ดเผาะ”



“เห็ดเผาะ” หรือชาวล้านนาเรียกว่า”เห็ดถอบ” ทั่วโลกเขาเชื่อว่าเป็นยาที่หายากและดีมากๆ มีหลายประเทศใช้เห็ดเพาะเป็นยากระตุ้นการหลั่งเอ็นไซม์ ย่อยแป้งและน้ำตาล พูดง่ายๆก็คือ ไปเสริมและบำรุงตับอ่อนให้แข็งแรงและหลั่งอินซูลินมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่ขบวนการใช้น้ำตาลในร่างกายได้ดีขึ้น หรือพูดให้ตรงก็คือ ในหลายประเทศ เช่นอินเดีย เนปาล และหลายประเทศในแอฟริกา เขาใช้เห็ดเผาะ เป็นยาที่สำคัญในการรักษาโรคเบาหวาน ดังนั้น เวลาเขาเจอเห็ดเผาะ จะทำการถนอมเห็ดเผาะด้วยการลวกน้ำร้อน เพื่อยับยั้งเอ็นไซม์เสียก่อน แล้วเก็บไว้ในตู้เย็นชั้นแช่แข็ง เพื่อใช้สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานทานเป็นประจำ สามารถที่จะช่วยรักษาโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี โดยใหม่ๆ ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานอย่างรุนแรงและไตเริ่มเสื่อม ควรทานเห็ดเผาะร่วมกับยาควบคุมน้ำตาล แต่พอน้ำตาลสามารถควบคุมได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา แต่ให้ทานเห็ดเผาะแทนเป็นประจำ วันละดอก สองดอกก็พอ
อย่างไรก็ตาม สารที่มีคุณสมบัติเป็นยาในตัวเห็ดเผาะนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสารโมเลกุลใหญ่ ร่างกายไม่สามารถนำเอาไปใช้ได้โดยตรง นอกจากเชื้อจุลินทรีย์ในระบบย่อยทำการย่อยเสียก่อน ดังนั้น หากไม่แน่ใจว่า ร่างกายเรามีจุลินทรีย์พวกนี้เพียงพอหรือไม่ ควรนำเอาเห็ดเผาะมาผ่านขบวนการหมักเสียก่อนจะดีกว่า ซึ่งทางบ้านเราส่วนใหญ่ นิยมทานเห็ดเผาะกันเพราะมันอร่อย ใช้ปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด แต่จริงๆแล้ว เห็ดเผาะ มีคุณค่าและสรรพคุณที่มากกว่าความอร่อย ชนิดที่บางท่านอาจจะไม่รู้ว่า เห็ดเผาะนั้นเป็นยาที่สุดยอดชนิดหนึ่ง นอกจากใช้รักษาโรคเบาหวานได้โดยตรงแล้ว เห็ดเผาะยังมีสรรพคุณดังนี้ สรรพคุณและประโยชน์ของเห็ดเผาะ(คุณทรงศักดิ์ วงศ์กาฬสินธ์ ที่รวบรวมสรรพคุณเห็ดเผาะ)

– ช่วยในการบำรุงร่างกายให้ร่างกายแข็งแรง
– ช่วยรักษาอาการช้ำใน
– ช่วยป้องกันโรควัณโรค
– ช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดของเซลล์มะเร็งได้ดี
– ช่วยในการสมานแผลและผิวให้เรียบเนียน
– ช่วยในการลดอาการบวมหรืออักเสบ
– ช่วยแก้อาการร้อนใน และแก้ไข้
– ช่วยให้เลือดแข็งตัวได้เร็ว หยุดไหลได้ง่ายขึ้น
– ช่วยบรรเทาอาการคันตามนิ้วมือหรือนิ้วเท้า
ในช่วงนี้มีฝนตกลงมาทำให้อาหารประเภทของป่า เช่น กบ เขียด อึ่งอ่าง แมงเม่า แมงมัน และพืชผักนานาชนิด ทำให้ชาวบ้านมีอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีรายได้เสริมเป็นกอบเป็นกำในช่วงหน้าฝนนี้ โดยเฉพาะ”เห็ดเผาะ”หรือ “เห็ดถอบ” 1 ปีจะออกหนเดียวในช่วงย่างเข้าสู่หน้าฝน ช่วงแรกๆเห็ดถอบจะมีราคาสูงถึงลิตรละไม่ต่ำกว่า 300 บาท กันทีเดียว ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างแพง แต่ก็ถือว่าคุ้มได้บริโภคของสดๆจากป่า ยิ่งหาซื้อมาบริโภคในช่วงนี้ “เห็ดถอบ”กำลังอ่อนและเนื้อข้างในมีรสชาติกรอบ หอม หวาน กันทีเดียว แต่ขอเสียใจกับ ผู้ที่ไม่มีฟันไม่อาจจะขบเคี้ยวลิ้มรสชาติของมันได้ดั่งใจ
เสน่ห์ นามจันทร์/เรื่อง
ทีมงาน”เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์”/ภาพ

ปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง

        ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทาง การดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนา และบริหารประเทศให้ดำเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติ เพื่อความมั่นคงและความยั่งยืนของการพัฒนา ความพอเพียงหมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และต้องประกอบไปด้วยสองเงื่อนไข คือ เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม 

แผนภูมิ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงคลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพใหญ่

ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบไปด้วย 5 ส่วน ดังนี้

ข้อที่ 1. กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่ และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต เพื่อความมั่นคง และความยั่งยืนของการพัฒนา

ข้อที่ 2. คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติบนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน

ข้อที่ 3. คำนิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ ดังนี้
  1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไป และไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น เช่นการผลติ และการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
  2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
  3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้ และไกล
ข้อที่ 4. เงื่อนไข การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน 2 เงื่อนไข ดังนี้
  1. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ
  2. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
ข้อที่ 5. 
แนวทางปฏิบัติ / ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดุล และยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยี

นั่นคือ หลักแนวคิด และแนวทางเพื่อการปฏิบัติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือองค์กรต่างๆ สามารถปฏิบัติตามได้

  

ธุรกิจการเกษตร หมายถึง

1. ธุรกิจการเกษตร หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทั้งหลายนับตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายปัจจัยการผลิต การผลิตสินค้าเกษตรในระดับฟาร์ม การเก็บรักษา การแปรรูปสินค้าเกษตร และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรและผลิตผลพลอยได้ ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรทุกประเภทถือว่าเป็นธุรกิจการเกษตรทั้งสิ้น 

2. ขอบเขตของธุรกิจการเกษตร  ขอบเขตของธุรกิจการเกษตรจึงครอบคลุมธุรกิจทุกอย่างที่ เกี่ยวข้องกับการเกษตร นับตั้งแต่ธุรกิจที่ผลิตและจำหน่ายปัจจัยการผลิต ธุรกิจการผลิตสินค้าเกษตร ธุรกิจการแปรรูปและการค้าสินค้าเกษตร นอกจากนี้ยังมีธุรกิจที่สนับสนุนการทำธุรกิจการเกษตรอีกด้วย เช่น การขนส่ง การเงินและคลังสินค้า เป็นต้น

3. ความสำคัญของธุรกิจการเกษตร เมื่อพิจารณาจากความหมายและขอบเขตแล้ว สามารถแบ่งได้ 3ประการด้วยกัน คือ

 3.1 ความสำคัญในแง่ชีวิตประจำวันของมนุษย์ทั้งมวล  มนุษย์ที่เกิดมาและมีชีวิต อยู่ได้ย่อมต้องการอาหารเพื่อการบริโภค และใช้สิ่งอื่นเข้าช่วยในการดำรงชีวิต การดำเนินงานธุรกิจการเกษตรเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค การที่ผู้บริโภคได้รับอาหารแต่ละมื้อในวันนี้ เกิดจากการคาดคะเนและการตัดสินใจในการผลิตสินค้าเกษตรก่อนหน้านี้มาระยะหนึ่ง ระยะเวลานี้จะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับชนิดของผลผลิต เช่น พวกผักก็ใช้เวลาสั้น แต่ถ้าเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น สัตว์ปีกและสุกรก็จะใช้เวลายาวขึ้นไปอีก เป็นต้น ประกอบกับการเกษตรในปัจจุบันมีความแตกต่างกับในอดีต เพราะในอดีตการทำการเกษตรเป็นแบบเลี้ยงตัวเอง ที่แต่ละครัวเรือนจะต้องพยายามผลิตทุกอย่างที่ต้องการใช้ในครอบครัว ถ้ามีเหลือจึงจะขายหรือนำไปแลกเปลี่ยนกับเพื่อนบ้านในส่วนที่ตนผลิตไม่ได้ หรือผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ แต่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ประกอบการเกษตรเป็นแบบการค้า ผลิตสินค้ามาเพื่อขาย แล้วนำรายได้จากการขายมาเพื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ที่ครอบครัวต้องการ การทำการเกษตรจึงจำเป็นต้องพิจารณาตลาดที่รองรับผลผลิตที่ผลิตขึ้นมา ดังนั้น การดำเนินงานธุรกิจการเกษตร ผู้ทำธุรกิจต้องมองภาพรวมทั้งในด้านการผลิตและการตลาดสินค้าเกษตรควบคู่ไปด้วยกัน นั่นคือ ต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงการบริโภคของผู้บริโภค และปรับการผลิตและการตลาดให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้น

 3.2 ความสำคัญในแง่ธุรกิจ จากความหมายแสดงให้เห็นว่า กว่าสินค้าเกษตรจะ ผลิตมาได้เกษตรกรจะต้องลงทุนในด้านปัจจัยการผลิต และเมื่อผลิตมาได้แล้ว กว่าสินค้าจะถึงมือผู้บริโภคคนสุดท้ายจะต้องผ่านคนกลางและกระบวนการต่างๆ มากมายแล้วแต่ชนิดของสินค้า หรือเรียกว่า วิถีการตลาด(Marketing channel) คือ การแสดงให้เห็นว่าสินค้านั้นจากผู้ผลิตผ่านคนกลางประเภทใดบ้าง ในปริมาณร้อยละเท่าใด กว่าจะถึงมือผู้บริโภคหรือผู้ใช้ ซึ่งบางชนิดออกจากไร่นาก็ไปสู่ผู้ขายปลีกและผู้บริโภคเลย บางชนิดต้องผ่านคนกลางและการแปรรูปหลายขั้นตอน ยิ่งกว่านั้น ผลผลิตบางชนิดไม่ได้ผลิตเพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศเพียงอย่างเดียว ยังสนองความต้องการของผู้บริโภคในต่างประเทศอีกด้วย เช่น ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ไก่เนื้อ กุ้งกุลาดำ ปลาทูนากระป๋อง หน่อไม้ฝรั่ง กระเจี๊ยบเขียว หน่อไม้ไผ่ตง และขิงอ่อนดอง เป็นต้น ดังนั้น จึงมีคนกลางประเภทผู้ส่งออกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงเห็นได้ว่า ธุรกิจการเกษตร มีนักธุรกิจการเกษตรที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ตั้งแต่ผู้ผลิต/ผู้นำเข้าปัจจัยการผลิต จนถึงผู้ค้าปลีกสินค้าเกษตรและผลิตผลพลอยได้ให้กับผู้บริโภคในประเทศ และผู้ส่งออกที่ส่งออกสินค้าเกษตรและผลิตผลพลอยได้ไปต่างประเทศ ซึ่งยังไม่นับรวมผู้ที่สนับสนุนในการดำเนินธุรกิจของนักธุรกิจการเกษตร เช่น สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ประกอบการคลังสินค้า หน่วยงานของรัฐและอื่นๆ ในการดำเนินงานธุรกิจ นักธุรกิจการเกษตรเองจำเป็นต้องทราบว่า ลักษณะการดำเนินธุรกิจนั้นเป็นอย่างไรบ้าง และต้องเกี่ยวพันกับคนอื่นมากน้อยเพียงใด เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจนั้นอยู่รอดและก้าวหน้าต่อไป

 3.3 ความสำคัญในแง่เศรษฐกิจของชาติ ธุรกิจการเกษตรเกี่ยวข้องกับการเกษตร ทั้งหมดและบางส่วนของอุตสาหกรรม และถ้าทำธุรกิจสินค้านั้นให้ครบวงจร หมายถึงว่า หน่วยธุรกิจมีการเปลี่ยนสินค้าเกษตรซึ่งมีลักษณะเป็นวัตถุดิบนั้นให้เป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายก่อนที่จะจำหน่ายให้กับผู้บริโภคหรือผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ข้าวโพดอาจนำมาสกัดน้ำมันข้าวโพดและผลิตเป็นแป้งข้าวโพด หรือนำไปเลี้ยงสัตว์เป็นการผลิตสัตว์แทนที่จะส่งออกในรูปของเมล็ดข้าวโพด การกระทำดังกล่าวจะต้อง มีการลงทุนด้านต่างๆ ที่ต่อเนื่องกัน มีการใช้ผลิตผลและปัจจัยการผลิตอย่างต่อเนื่องและสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน หรือเรียกว่า การผลิตเป็นแบบอนุกรม สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตนั้น และสร้างงานมากมายให้กับคนในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจการเกษตรในประเทศไทยในปัจจุบันมีสินค้าเกษตรหลายชนิดที่ทำธุรกิจได้ครบวงจร เช่น ข้าวโพดซึ่งในอดีตผลิตมาเพื่อการส่งออกเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ แต่ในปัจจุบันนำมาใช้ผลิตเป็นอาหารสัตว์ในประเทศมากจนกระทั่งผลิตได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ ต้องมีการนำเข้ามาบางส่วน ทำให้ประเทศไทยนอกจากส่งออกผลิตภัณฑ์สัตว์แทนแล้ว ยังสร้างงานในธุรกิจการเลี้ยงสัตว์และธุรกิจที่ต่อเนื่องจากการเลี้ยงสัตว์ ผักและผลไม้บางชนิดก็มีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก แต่ก็มีสินค้าเกษตรอีกหลายชนิดที่ประเทศไทยยังมีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและมีอุปสรรคอื่นๆ ที่ไม่สามารถทำให้ธุรกิจครบวงจรได้ เช่น ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในรูปของมันเส้นและมันอัดเม็ดยังมีการใช้ผลิตเป็นอาหารสัตว์ได้ในวงจำกัด ยางพารามีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีที่จะแปรรูปในขั้นต่อไปจึงต้องส่งออกในรูปของยางแผ่นรมควัน ประเทศไทยเพิ่งเริ่มมีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ยางได้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ และกาแฟ มีอุปสรรคในการส่งออกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป จึงยังจำเป็นต้องส่งออกในรูปผลิตภัณฑ์แปรรูปขั้นต้น คือ เมล็ดกาแฟแทน ถ้าประเทศไทยสามารถนำสินค้าเหล่านี้มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่ตลาดต้องการได้ นอกจากลดปัญหาความผันผวนของราคาสินค้าขั้นต้นที่รัฐบาลต้องเข้าไปแทรกแซงโดยตลอดแล้วยังก่อให้เกิดการลงทุนที่ต่อเนื่อง เปิดโอกาสให้คนในชาติมีงานทำมากขึ้นและมูลค่าสินค้านั้นเพิ่มขึ้นตามกิจกรรมที่ทำ

4. องค์ประกอบของระบบธุรกิจการเกษตร โครงสร้างของระบบธุรกิจการเกษตรของ ประเทศไทยสามารถจำแนกออกเป็น ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายดำเนินการและฝ่ายสนับสนุน ดังนี้
 4.1 ฝ่ายดำเนินการ  หมายถึง ฝ่ายที่ดำเนินกิจกรรมทั้งหลายนับตั้งแต่การผลิตและ จำหน่ายปัจจัยการผลิต การผลิตสินค้าเกษตรในระดับฟาร์ม การเก็บรักษา การแปรรูปสินค้าเกษตร และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรและผลิตผลพลอยได้  ฝ่ายดำเนินการจำแนกออกเป็น ระบบย่อย ได้แก่
1)      ระบบย่อยปัจจัยการผลิตสินค้าเกษตร
2)      ระบบย่อยการผลิตสินค้าเกษตร
3)      ระบบย่อยการจัดหาสินค้าเกษตร
4)      ระบบย่อยการแปรรูป/การเก็บรักษาสินค้าเกษตร
5)      ระบบย่อยการจัดจำหน่ายสินค้าเกษตร
6)      ระบบย่อยการส่งออกสินค้าเกษตร
 4.2 ฝ่ายสนับสนุน หมายถึง  องค์กรหรือหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับฝ่ายดำเนินการ ทำให้ฝ่ายดำเนินการสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : http://www.agkmstou.com/article_view.php?id=6

ทำการเกษตรอะไรถึงจะได้กำไรดี




เครปญี่ปุ่นอาชีพเสริม



เครปญี่ปุ่นอาชีพเสริม

ยินดีต้อนรับสู่เวปไซค์ ไทยอาชีพ.คอม แหล่งรวมคำแนะนำเรื่องอาชีพและช่องทางทำเงินในรูปแบบต่างๆ ทั้ง เฟรนไชนส์ และ อาชีพอิสระ อาชีพเกษตรกรรม โดยที่สามารถนำไปต่อยอดไอเดียเพื่อสร้างรายได้เสริม ได้หลากหลาย เรามีข้อมูลหลากหลายให้ได้ศึกษาเพื่อเป็นแนวทาง  ซึ่งวันนี้เรามีข้อมูลดีๆมานำเสนอ และ แนะนำให้เป็นอีกทางเลือก และ วันนี้เราขอนำเสนอให้รู้จักกับ เครปญี่ปุ่น ขนมขวัญใจเด็กๆ  ที่น่าทำขายเป็นการสร้างรายได้ เพราะเป็นอาหารที่ทานง่ายและทำง่าย และ วันนี้เรามีสูตรการทำ  เครปญี่ปุ่น   มาแนะนำให้รู้จัก ซึ่งทำได้ง่ายๆและ สามารถทำขายได้ อีกทั้งยังทำให้เป็น อาชีพอิสระ และ อาชีพเสริมได้  ซึ่งสามารถขายได้ตามออฟฟิศที่ทำงาน หรือ ตามตลาดนัดตลาดเปิดท้ายซึ่งหากคุณทำอร่อยๆ รับรองลูกค้าเพียบ สามารถขายในวันหยุด หรือ หลังเลิกงาน เพียงแค่มีสถานที่เช่น หน้าบ้าน (หากอยู่ในชุมชน หรือ หมู่บ้านที่มีคนเยอะ) หรือ ขายตามตลาดนัดวันหยุด รับรองว่าทำง่ายแต่รายได้ดีแน่นอน


เครปญี่ปุ่น Japanese Crepe ขนมทานเล่นที่นิยมมากในญี่ปุ่น ทานได้ทั้งคาวและหวาน ทำได้ง่ายและอร่อยมากค่ะ อุปกรณ์และส่วนผสมหาได้ไม่ยาก หรือจะทำแจกเด็กๆในงานปาร์ตี้ก็ได้

สูตรสำหรับ 15 ชิ้น
1. เนยเค็ม 70 กรัม
2. นมสดรสจืด 300 มิลลิลิตร
3. ไข่ไก่ 3 ฟอง
4. แป้งอเนกประสงค์ 80 กรัม
5. น้ำตาลทราย 50 กรัม
6. วิปปิ้งครีม 400 มิลลิลิตร
7. ผลไม้ ช็อคโกแลต (ตามชอบ) หรืออุปกรณ์ใส่ไส้ตามความชอบ
ขั้นตอนการทำ
1. นำเนยเค็ม และนมสดเทลงหม้อและต้มจนเดือด
2. พักเนยเค็ม และนมสดที่ต้มเสร็จแล้วให้เป็นอุณหภูมิห้อง
3. นำไข่ไก่เทใส่ชามผสม ตีด้วยตะกร้อพอแตก
4. ใส่น้ำตาลทรายลงไปจนหมด ตีต่อพอเข้ากัน
5. เทนมเนยที่ต้มไว้ลงไปจนหมด
6. สุดท้ายค่อยๆใส่แป้งอเนกประสงค์ และตีต่อจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว (ไม่มีเม็ดแป้ง)
7. ตั้งกระทะให้ร้อนด้วยไฟกลาง
8. ทาเนยและเช็ดด้วยกระดาษอเนกประสงค์
9. ตักแป้งเครปที่ผสมไว้ลงในกระทะ และกลิ้งกระทะจนแป้งเป็นแผ่นบางทั่วกระทะ
10. เมื่อสุกพักบนตะแกรง หรือกระดาษไข
11. นำแผ่นแป้งเครปญี่ปุ่นมาใส่วิปปิ้งครีม หรือไส้ตามชอบ
12. พับและม้วนเป็นกราวย และห่อด้วยกระดาษ สุดท้ายแต่งด้านบนตามชอบ

ธุรกิจแฟรนไซส์ ตูเล อัลมอนด์ คุกกี้ฝรั่งเศส

ธุรกิจแฟรนไซส์  ตูเล  อัลมอนด์ คุกกี้ฝรั่งเศส


แนะนำแฟรนไชส์ ตูเล อัลมอนด์’ คุกกี้ฝรั่งเศส
ดูจากชื่อก็น่าสนใจไม่น้อยเลยจริงๆ เพราะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หลายคนให้ความสนใจ ไม่ใช่เพราะรายได้ดีอย่างเดียว แต่มีการผสมสานเกี่ยงกับไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ลงไปในชิ้นงานและสินค้า ทำให้ได้รับความสนใจอย่างมาก ส่วนของข้อมูลในการลงทุนนั้นก็ใช้จำนวนเงินที่หลายคนลงทุนได้อยู่อีกด้วย ถ้าใครปล่อยผ่านไม่สนใจธุรกิจนี้ก็น่าเสียดายมากๆเลยละค่ะ

ทำไมแฟรนไชส์ ตูเล อัลมอนด์’ คุกกี้ฝรั่งเศส

เมื่อทราบแล้วว่ารายละเอียดเบื้องต้นของธุรกิจที่คุณสนใจนั้นเป็นอย่างไรก็ต้องมาพิจารณาในส่วนของรายละเอียดเชิงลึกว่ามีการลงทุนอย่างไร และมีลักษณะของสินค้าและการบริการอย่างไร ทั้งนี้ก็เพื่อการดำเนินธุรกิจของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่นและมีความมั่นใจทุกครั้งในการลงทุน เพราะการลงทุนคือความเสี่ยง เพราะฉะนั้นการระมัดระวังทุกความคิดและการกระทำคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณก้าวเดินด้วยความมั่นใจนะค่ะ

ลักษณะแฟรนไชส์ ตูเล อัลมอนด์ คุกกี้ฝรั่งเศส

ใครจะคิดว่าเพียงแค่หนึ่งคนในครอบครัวชื่นชอบการทำขนม แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สมาชิกทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม และมีความสุขไปกับการทำขนม ที่ไม่เพียงแต่จะสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่ยังช่วยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ผลิต ไปจนถึงผู้บริโภคที่ได้รับประทานขนมที่มีรสชาติอร่อยจนวางไม่ลง ซึ่งถือเป็นปณิธานเริ่มแรกของผู้ประกอบการที่ยึดมั่น มุ่งมั่น ในการทำขนมออกมาให้ผู้บริโภครับประทานแล้วมีความสุขเหมือนที่ผู้ผลิตรู้สึก

การลงทุนแฟรนไชส์ ตูเล อัลมอนด์ คุกกี้ฝรั่งเศส

อาจเรียกได้ว่า ขนม “ตูเล อัลมอนด์” ทุกชิ้น นอกจากจะอบอวลไปด้วยกลิ่นของเนยสดแล้ว ยังอวลไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ที่แฝงลงไปอยู่ในขนมทุกชิ้น เพราะเริ่มตั้งแต่พนักงานที่ผลิตมีในรักในงานนี้ ทำงานด้วยความสุข และเมื่อขนมไปสู่ผู้บริโภคเมื่อรับประทานก็เกิดความสุขขณะรับประทาน

ข้อมูลติดต่อ

หากใครที่มีความสนใจต้องการสอบถามข้อมูลของแฟรนไชส์ไอติมลุงชมไอติมโบราณรสชาติถูกใจ สามารถติดต่อสอบถามได้ตามข้อมูลด้านล่าง เนื่องจากทางทีมงาน ไทยอาชีพ.คอม ได้มีการติดต่อสอบถามแล้วว่ายังมีการเปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์อยู่ค่ะโทร.02-418-5006, 089-790-9001,081-726-5154

กินเลมอนชีวิตจะดี

เลมอนมีรสเปรี้ยว ฉ่ำน้ำ มีกลิ่นหอม
                         เลมอน บางคนอาจจะรู้จักมันในชื่อมะนาวนมยาน มะนาวเหลือง มะนาวฝรั่ง มะนาวเทศ โดยเลมอนจะมีรสเปรี้ยว ฉ่ำน้ำ ผลมีลักษณะกลมรีสีเหลือง นิยมนำมาผสมกับเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติ ซึ่งในน้ำอัดลมบางชนิดก็มีการนำเลมอนเข้าไปเป็นส่วนประกอบด้วยเช่นกันอย่างเช่น สไปรส์ เซเว่นอัพ และมีการนำไปใส่ในเครื่องดื่มต่างๆ อีกหลายชนิด นอกจากนี้มันยังสามารถนำไปประกอบอาหารได้อีกด้วยโดยถ้าเป็นอาหารอิตาเลี่ยนมักจะขูดเปลือกของมันใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความหอม หรือไม่ก็สามารถนำไปทำพายเลมอน ฯลฯ โดยแต่ละอย่างแน่นอนว่าต้องอร่อยจนไม่อยากอิ่มกันเลยทีเดียว
วิธีการปลูกเลมอน
             ซึ่งสำหรับวันนี้เราจะใช้การตอนกิ่งในการขยายพันธุ์ เลมอน เพราะวิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้เลมอนมีรากฝอยเยอะ ทำให้เจริญเติบโตได้ดี โดยวิธีการก็คือให้นำขุยมะพร้าวป่นไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำไปใส่ถุงพลาสติกรัดด้วยยาง ซึ่งสิ่งนี้เราจะเรียกมันว่าตุ้มหุ้ม จากนั้นไปเลือกกิ่งที่สมบูรณ์มาควั่นกิ่งแล้วลอกเปลือกออกและใช้มีดขูดเยื่อเจริญซึ่งเป็นเมือกลื่นๆ ออกอย่างเบามือ ตามด้วยเอาตุ้มหุ้มมาผ่าตามยาวแล้วนำไปหุ้มตรงรอยแผลของกิ่งตอน แล้วมัดด้วยเชือกฟางทั้งด้านบนและด้านล่าง จากนั้นนำกระดาษมาหุ้มอีกชั้นเพื่อไม่ให้มันได้รับแสงมากเกินไป ทิ้งไว้ประมาณ 37 วัน ก็สามารถตัดออกจากต้นและนำไปปักชำลงดินได้
เลมอนเป็นพืชที่ดูแลได้ไม่ยาก ซึ่งสิ่งที่ต้องทำก็คือการตัดแต่งกิ่งเพื่อให้มันแตกยอดใหม่ออกมา ซึ่งการทำในลักษณะนี้จะช่วยให้เลมอนมีลูกดก นอกจากนี้เมื่อเก็บเกี่ยวผลไปแล้วจะต้องนำมูลวัวมาใส่รอบโคนต้น และต้องใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16  เดือนละ 1 ครั้งด้วย
แล้วทำไมเราถึงได้บอกว่าให้รับประทานเลมอนแล้วชีวิตจะดีขึ้น หลายๆ คนอาจจะเกิดความสงสัย ดังนั้นเราจึงได้นำคำตอบมาไขข้อข้องใจดังกล่าวซึ่งนั่นก็เพราะมันสามารถป้องกันนิ่วในไตได้ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ ทำให้รู้สึกสบายท้อง ช่วยเพิ่มวิตามินซีให้กับร่างกาย แก้คัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อยอาหาร ป้องกันมะเร็งได้ นอกจากนี้มันยังช่วยลดไข้ มีโพแทสเซียมสูง ช่วยรักษาสมดุลให้กับร่างกายได้อีกด้วยนั่นเอง

อาชีพทางการเกษตรที่สร้างรายได้ดี

อาชีพที่สร้างรายได้มากที่สุด

พืชเครื่องเทศเงินล้าน อาชีพที่เกษตรกรไม่ควรมองข้าม

ทำมาหากิน : พืชเครื่องเทศเงินล้าน ณ ทุ่งรังสิต อาชีพที่เกษตรกรไม่ควรมองข้าม : โดย...ดลมนัส กาเจ

 
                    ขณะที่ภาคการเกษตรของไทยกำลังประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตไม่ได้มาตรฐาน ราคาผันผวน และสภาพภูมิอากาศไม่เอื้อต่อการเพาะปลูก แต่พืชเครื่องเทศประเภทข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ที่หลายคนอาจมองข้าม กลับพบว่า เกษตรกรที่ปลูกในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะย่านทุ่งรังสิต จ.ปทุมธานี รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ที่ปลูกป้อนส่งตลาดไท บริษัทแปรรูป และส่งออก สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ อย่าง "อัฐพร ทองย้อย" ข้าราชการครู ที่หันมายึดอาชีพเสริมด้วยการปลูกข่า ตะไคร้ มะกรูด ย่านคลอง 12 และคลอง 13 จ.ปทุมธานี ในนาม "ไร่ท่านขุน" ปรากฏว่ากลายเป็นรายได้หลัก ในแต่ละปีสร้างเม็ดเงินเข้าบ้านหลายล้านบาท 
 
                    อัฐพร เล่าว่า ปกติครอบครัวเป็นมนุษย์เงินเดือน ตนเองรับราชการครู เป็นอาจารย์สอนวิชากลุ่มงานอาชีพและเกษตรในสถานศึกษาแห่งใน จ.ปทุมธานี ส่วนสามีเป็นพนักงานบริษัท ที่ดำเนินกิจการด้านการเกษตรครบวงจร ตนและครอบครัวไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นเกษตรกร ยามว่างก็ปลูกพืชเครื่องเทศจำพวกข่า ตะไคร้ และมะกรูดอย่างที่เห็น แต่สามีทำงานด้านการเกษตร มองถึงพืชเศรษฐกิจที่ป้อนภาคอุตสาหกรรมจำพวกปาล์มน้ำมัน เมื่อครั้งที่ปาล์มน้ำมันราคาดีในปี 2546 และมองว่าในพื้นที่คลองต่างๆ ของ จ.ปทุมธานี มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกปาล์มน้ำมัน จึงไปหาที่เช่าพื้นที่แปลงหนึ่ง 200 ไร่ ติดคลอง 13 ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าของเดิมปลูกข้าวโพดหวาน จึงเซ้งมาในราคา 8 แสนบาท ทำสัญญาครั้งละ 5 ปี
 
                    "ที่สวยมากค่ะ เห็นแล้วชอบ หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว จะเริ่มต้นปลูกปาล์มน้ำมัน ปรากฏว่าเจ้าของที่ตัวจริงไม่ยอม เพราะเราเช่าต่อ คราวนี้แหละ... เราจะเอาอย่างไรดี ต้องมาเริ่มต้นใหม่ ด้วยการเจรจากับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งเพื่อเป็นแปลงปลูกพ่อพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีแรกได้กำไรดี พอปีที่สองขาดทุน เพราะสภาพดินเป็นดินเหนียวไม่เอื้อต่อการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เราต้องมาวางแผนใหม่อีกครั้ง" อัฐพร ย้อนอดีต
 
                    การเริ่มต้นใหม่อีกครั้งด้วยการปลูกตะไคร้ในปี 2547 เพราะเห็นคนอื่นปลูกและมีพ่อค้ามารับถึงที่ เลือกพันธุ์ "เกษตร" ส่งแม่ค้ารายย่อยที่ส่งตลาดเพื่อบริโภควันต่อวัน วันละ 300-400 กก. ราคาพออยู่ได้ จนมาวันหนึ่งราคาตกต่ำมาก กก.ละ 1 บาท ตอนนั้นเกือบจะเผาทิ้งไปแล้ว แต่ยังชั่งใจอยู่ ในระหว่างนั้นเดินหาตลาดหลายแห่งนำผลผลิตให้พิจารณา รวมถึงที่บริษัท โกลโบ ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องแกง ตรา "โลโบ" ที่ส่งอยู่ปัจจุบันด้วย
 
                    "ตอนที่ไปเสนอให้ โกลโบ ฟู้ดส์ ซึ่งต้องยอมรับว่า บริษัทที่ดำเนินกิจการที่มีคุณภาพ สิ่งที่เขาต้องการคือผลผลิตที่มีคุณภาพ และความสม่ำเสมอเพื่อประกันความเสี่ยง โดยทางโกลโบ ฟู้ดส์ ไม่มั่นใจว่าเราจะผลิตได้สม่ำเสมอ จนเวลาผ่านไป ทางโกลโบ ฟู้ดส์ ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแปลงปลูก และเก็บตัวอย่างไป แต่ของเรา สามีทำงานบริษัทใหญ่ จึงเน้นในเรื่องของคุณภาพ โดยเฉพาะเรื่องปลอดสาร ซึ่งของเราได้รับการรับรองมาตรฐานเจเอพี (GAP) ต่อมาจึงรับซื้ออาทิตย์ละ 2 ตัน ตรงนี้แหละเป็นที่สร้างความหวัง และเป็นจุดประกายว่า เรากำลังเดินทางที่ถูกแล้ว และต่อมามีบริษัทอีกหลายแห่งมาติดต่อให้ส่งไปจนถึงวันนี้" อัฐพร กล่าว
 
                    อาชีพเสริมของอัฐพรฟื้นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ จนกลายเป็นที่ยอมรับของลูกค้าในวันนี้คือ ช่วงน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 พื้นที่ปลูกพืชเครื่องเทศส่วนใหญ่ประสบน้ำท่วม แต่ไร่ท่านขุน เหลืออยู่อย่างมหัศจรรย์ เธอสามารถป้อนผลผลิตให้ลูกค้าได้ และปีเดียวกันที่ลูกค้ารายอื่นไปขอแบ่งซื้อจำนวนมาก
 
                    "เราทำการค้า แม้ว่าช่วงนั้นมีบริษัทหลายแห่งเสนอราคาสูงมาก ถึง กก.ละ 40 บาท จากปกติ กก.ละ 8 บาท แต่เราต้องส่งเจ้าประจำก่อน เราต้องจริงใจซึ่งกันและกัน เพราะนี่คือปากท้องเรา จากจุดนี้ทำให้ความน่าเชื่อถือของไร่ท่านขุนของเราสูงมาก เราสม่ำเสมอ จนทำให้ในปี 2555 ต้องขยายพื้นที่ปลูกใหม่อีก 200 ไร่ ที่คลอง 12 อ.หนองเสือ และอีก 100 ไร่ ที่คลอง 7 และคลอง 8 รวมกว่า 500 ไร่ ปลูกทั้งตะไคร้กว่า 400 ไร่ ข่า 60 ไร่ และมะกรูด 30-40 ไร่ ป้อนให้หลายบริษัท ทั้งตลาดสด โรงงานแปรรูป และส่งออก" เจ้าของไร่ท่านขุน กล่าว
 
                    จากวันที่่ครั้งหนึ่งอัฐพรจะเผาไร่ตะไคร้ทิ้ง มาวันนี้เธอเป็นผู้ผลิตพืชเครื่องเทศ อาทิตย์ละ 6-7 ตัน มูลค่าแต่ละเดือนเป็นเงินนับแสนบาท
 
                    ด้าน พยนต์ มูลเกิด อดีตวิศวกรของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ยอมทิ้งเดือนเงินกว่า 7 หมื่นบาท หันมาปลูกตะไคร้ บอกว่า เมื่อ 11 ปีก่อน ในระหว่างที่ทำงานประจำได้ปลูกตะใคร้ 4 ไร่ แถวๆ บ้านย่านคลอง 7 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จะมีแม่ค้ามารับซื้อประจำถึงที่ เห็นว่ารายได้ดี จึงขยายพื้นที่ 20 ไร่ มีรายได้ปีละ 2-3 แสนบาท มานั่งคำนวณถ้า 100 ไร่ ต้องได้เป็นล้าน ในที่สุดเมื่อ 2 ปีก่อนลาออกจากงาน เช่าที่ติดคลอง 13 ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี อีก 100 ไร่ นอกจากนี้ได้โควตาด้านตลาดมา จึงขยายลูกไร่อีก 600 ไร่ ทำให้มีรายปีละหลักล้านบาท โดยมีตลาดหลักเป็นโรงงานแปรรูป และส่งออกใน จ.นครปฐม จ.ปทุมธานี รวมถึงตลาดไทด้วย
 
                    ส่วน อรทัย สูงเส็ง แม่ค้าซื้อพืชเครื่องเทศรายใหญ่ในโซนลานผัก ตลาดไท บอกว่า รับซื้อข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด มากว่า 15 ปีแล้ว จะเน้นลูกสวนที่เป็นเจ้าประจำ เน้นพื้นที่ปลูกที่ จ.ปทุมธานี เป็นหลัก ที่เหลือบางส่วนจากสระบุรี และอ่างทอง ซึ่งในแต่ละวันจะรับซื้อประมาณ 3-4 ตัน เป็นตะไคร้มากที่สุดในราคา กก.ละ 8 บาท ส่วนข่า กก.ละ 3-4 บาท มะกรูด กก.ละ 30-40 บาท โดยผลผลิตที่รับซื้อทั้งหมดจะส่งให้แม่ค้าที่ขายปลีกตามตลาดนัด รถซาเล็ง และอีกส่วนหนึ่งส่งไปตามร้านอาหารกระจายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งในรูปแบบของเฉพาะอย่าง และจัดเป็นเครื่องชุดต้มยำที่ขายดีที่สุด ทำให้ในแต่ละวันจะมีเงินหมุนเวียนในการซื้อขายราว 5 หมื่นบาท
 
                    สนใจปลูกพืชเครื่องเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาเชิงวิชาการ พืชเครื่องเทศ...เงินล้าน (ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด) ในวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2558 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2940-5425-6, 08-6340-1713 โดยทั้ง 3 ท่านนี้มาเป็นวิทยากรด้วย
 
 
 
 
 
-----------------------
 
(ทำมาหากิน : พืชเครื่องเทศเงินล้าน ณ ทุ่งรังสิต อาชีพที่เกษตรกรไม่ควรมองข้าม : โดย...ดลมนัส กาเจ)
 
 
 
 
 
 
                    ขณะที่ภาคการเกษตรของไทยกำลังประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผลผลิตไม่ได้มาตรฐาน ราคาผันผวน และสภาพภูมิอากาศไม่เอื้อต่อการเพาะปลูก แต่พืชเครื่องเทศประเภทข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ที่หลายคนอาจมองข้าม กลับพบว่า เกษตรกรที่ปลูกในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะย่านทุ่งรังสิต จ.ปทุมธานี รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ที่ปลูกป้อนส่งตลาดไท บริษัทแปรรูป และส่งออก สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ อย่าง "อัฐพร ทองย้อย" ข้าราชการครู ที่หันมายึดอาชีพเสริมด้วยการปลูกข่า ตะไคร้ มะกรูด ย่านคลอง 12 และคลอง 13 จ.ปทุมธานี ในนาม "ไร่ท่านขุน" ปรากฏว่ากลายเป็นรายได้หลัก ในแต่ละปีสร้างเม็ดเงินเข้าบ้านหลายล้านบาท 
 
                    อัฐพร เล่าว่า ปกติครอบครัวเป็นมนุษย์เงินเดือน ตนเองรับราชการครู เป็นอาจารย์สอนวิชากลุ่มงานอาชีพและเกษตรในสถานศึกษาแห่งใน จ.ปทุมธานี ส่วนสามีเป็นพนักงานบริษัท ที่ดำเนินกิจการด้านการเกษตรครบวงจร ตนและครอบครัวไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเป็นเกษตรกร ยามว่างก็ปลูกพืชเครื่องเทศจำพวกข่า ตะไคร้ และมะกรูดอย่างที่เห็น แต่สามีทำงานด้านการเกษตร มองถึงพืชเศรษฐกิจที่ป้อนภาคอุตสาหกรรมจำพวกปาล์มน้ำมัน เมื่อครั้งที่ปาล์มน้ำมันราคาดีในปี 2546 และมองว่าในพื้นที่คลองต่างๆ ของ จ.ปทุมธานี มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ เหมาะอย่างยิ่งที่จะปลูกปาล์มน้ำมัน จึงไปหาที่เช่าพื้นที่แปลงหนึ่ง 200 ไร่ ติดคลอง 13 ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าของเดิมปลูกข้าวโพดหวาน จึงเซ้งมาในราคา 8 แสนบาท ทำสัญญาครั้งละ 5 ปี
 
                    "ที่สวยมากค่ะ เห็นแล้วชอบ หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว จะเริ่มต้นปลูกปาล์มน้ำมัน ปรากฏว่าเจ้าของที่ตัวจริงไม่ยอม เพราะเราเช่าต่อ คราวนี้แหละ... เราจะเอาอย่างไรดี ต้องมาเริ่มต้นใหม่ ด้วยการเจรจากับบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งเพื่อเป็นแปลงปลูกพ่อพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีแรกได้กำไรดี พอปีที่สองขาดทุน เพราะสภาพดินเป็นดินเหนียวไม่เอื้อต่อการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เราต้องมาวางแผนใหม่อีกครั้ง" อัฐพร ย้อนอดีต
 
                    การเริ่มต้นใหม่อีกครั้งด้วยการปลูกตะไคร้ในปี 2547 เพราะเห็นคนอื่นปลูกและมีพ่อค้ามารับถึงที่ เลือกพันธุ์ "เกษตร" ส่งแม่ค้ารายย่อยที่ส่งตลาดเพื่อบริโภควันต่อวัน วันละ 300-400 กก. ราคาพออยู่ได้ จนมาวันหนึ่งราคาตกต่ำมาก กก.ละ 1 บาท ตอนนั้นเกือบจะเผาทิ้งไปแล้ว แต่ยังชั่งใจอยู่ ในระหว่างนั้นเดินหาตลาดหลายแห่งนำผลผลิตให้พิจารณา รวมถึงที่บริษัท โกลโบ ฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องแกง ตรา "โลโบ" ที่ส่งอยู่ปัจจุบันด้วย
 
                    "ตอนที่ไปเสนอให้ โกลโบ ฟู้ดส์ ซึ่งต้องยอมรับว่า บริษัทที่ดำเนินกิจการที่มีคุณภาพ สิ่งที่เขาต้องการคือผลผลิตที่มีคุณภาพ และความสม่ำเสมอเพื่อประกันความเสี่ยง โดยทางโกลโบ ฟู้ดส์ ไม่มั่นใจว่าเราจะผลิตได้สม่ำเสมอ จนเวลาผ่านไป ทางโกลโบ ฟู้ดส์ ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบแปลงปลูก และเก็บตัวอย่างไป แต่ของเรา สามีทำงานบริษัทใหญ่ จึงเน้นในเรื่องของคุณภาพ โดยเฉพาะเรื่องปลอดสาร ซึ่งของเราได้รับการรับรองมาตรฐานเจเอพี (GAP) ต่อมาจึงรับซื้ออาทิตย์ละ 2 ตัน ตรงนี้แหละเป็นที่สร้างความหวัง และเป็นจุดประกายว่า เรากำลังเดินทางที่ถูกแล้ว และต่อมามีบริษัทอีกหลายแห่งมาติดต่อให้ส่งไปจนถึงวันนี้" อัฐพร กล่าว
 
                    อาชีพเสริมของอัฐพรฟื้นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ จนกลายเป็นที่ยอมรับของลูกค้าในวันนี้คือ ช่วงน้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 พื้นที่ปลูกพืชเครื่องเทศส่วนใหญ่ประสบน้ำท่วม แต่ไร่ท่านขุน เหลืออยู่อย่างมหัศจรรย์ เธอสามารถป้อนผลผลิตให้ลูกค้าได้ และปีเดียวกันที่ลูกค้ารายอื่นไปขอแบ่งซื้อจำนวนมาก
 
                    "เราทำการค้า แม้ว่าช่วงนั้นมีบริษัทหลายแห่งเสนอราคาสูงมาก ถึง กก.ละ 40 บาท จากปกติ กก.ละ 8 บาท แต่เราต้องส่งเจ้าประจำก่อน เราต้องจริงใจซึ่งกันและกัน เพราะนี่คือปากท้องเรา จากจุดนี้ทำให้ความน่าเชื่อถือของไร่ท่านขุนของเราสูงมาก เราสม่ำเสมอ จนทำให้ในปี 2555 ต้องขยายพื้นที่ปลูกใหม่อีก 200 ไร่ ที่คลอง 12 อ.หนองเสือ และอีก 100 ไร่ ที่คลอง 7 และคลอง 8 รวมกว่า 500 ไร่ ปลูกทั้งตะไคร้กว่า 400 ไร่ ข่า 60 ไร่ และมะกรูด 30-40 ไร่ ป้อนให้หลายบริษัท ทั้งตลาดสด โรงงานแปรรูป และส่งออก" เจ้าของไร่ท่านขุน กล่าว
 
                    จากวันที่่ครั้งหนึ่งอัฐพรจะเผาไร่ตะไคร้ทิ้ง มาวันนี้เธอเป็นผู้ผลิตพืชเครื่องเทศ อาทิตย์ละ 6-7 ตัน มูลค่าแต่ละเดือนเป็นเงินนับแสนบาท
 
                    ด้าน พยนต์ มูลเกิด อดีตวิศวกรของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ยอมทิ้งเดือนเงินกว่า 7 หมื่นบาท หันมาปลูกตะไคร้ บอกว่า เมื่อ 11 ปีก่อน ในระหว่างที่ทำงานประจำได้ปลูกตะใคร้ 4 ไร่ แถวๆ บ้านย่านคลอง 7 อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี จะมีแม่ค้ามารับซื้อประจำถึงที่ เห็นว่ารายได้ดี จึงขยายพื้นที่ 20 ไร่ มีรายได้ปีละ 2-3 แสนบาท มานั่งคำนวณถ้า 100 ไร่ ต้องได้เป็นล้าน ในที่สุดเมื่อ 2 ปีก่อนลาออกจากงาน เช่าที่ติดคลอง 13 ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี อีก 100 ไร่ นอกจากนี้ได้โควตาด้านตลาดมา จึงขยายลูกไร่อีก 600 ไร่ ทำให้มีรายปีละหลักล้านบาท โดยมีตลาดหลักเป็นโรงงานแปรรูป และส่งออกใน จ.นครปฐม จ.ปทุมธานี รวมถึงตลาดไทด้วย
 
                    ส่วน อรทัย สูงเส็ง แม่ค้าซื้อพืชเครื่องเทศรายใหญ่ในโซนลานผัก ตลาดไท บอกว่า รับซื้อข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด มากว่า 15 ปีแล้ว จะเน้นลูกสวนที่เป็นเจ้าประจำ เน้นพื้นที่ปลูกที่ จ.ปทุมธานี เป็นหลัก ที่เหลือบางส่วนจากสระบุรี และอ่างทอง ซึ่งในแต่ละวันจะรับซื้อประมาณ 3-4 ตัน เป็นตะไคร้มากที่สุดในราคา กก.ละ 8 บาท ส่วนข่า กก.ละ 3-4 บาท มะกรูด กก.ละ 30-40 บาท โดยผลผลิตที่รับซื้อทั้งหมดจะส่งให้แม่ค้าที่ขายปลีกตามตลาดนัด รถซาเล็ง และอีกส่วนหนึ่งส่งไปตามร้านอาหารกระจายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งในรูปแบบของเฉพาะอย่าง และจัดเป็นเครื่องชุดต้มยำที่ขายดีที่สุด ทำให้ในแต่ละวันจะมีเงินหมุนเวียนในการซื้อขายราว 5 หมื่นบาท
 
                    สนใจปลูกพืชเครื่องเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาเชิงวิชาการ พืชเครื่องเทศ...เงินล้าน (ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด) ในวันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม 2558 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-2940-5425-6, 08-6340-1713 โดยทั้ง 3 ท่านนี้มาเป็นวิทยากรด้วย

รูปภาพอาชีพทางการเกษตร

รูปภาพอาชีพการเกษตร




อาชีพการประมง

อาชีพทำไร่ ทำนา  ทำสวน

อาชีพเลียงสัตว์

อาชีพค้าขาย

ความหมายของธุรกิจการเกษตร

ความหมายของธุรกิจ การเกษตร หมายถึง กระบวนการทางธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับสาขาเกษตรและ สาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง ครอบคลุมถึงการผลิตพืช การ เลี้ยงสัตว์ การเพาะเลี้ยงสัตว์และ จับสัตว์น้ำ รวมทั้งการผลิตปัจจัย การผลิตธุรกิจการรวบรวมสินค้า จากเกษตรกร การแปรรูป การ ขายปลีก การขายส่ง การเก็บ รักษา การขนส่งสินค้าไปสู่ ผู้บริโภค และผู้ใช้ภายในประเทศ และต่างประเทศ และรวมถึง สินเชื่อ อีกด้วย 
3  ความสำคัญของธุรกิจ การเกษตร 1. เป็นแหล่งการค้าปัจจัยการ ผลิตการเกษตร 2. เป็นแหล่งวัตถุดิบ 3. เป็นแหล่งรายได้ของ ประเทศ 4. เป็นแหล่งแรงงานของ ประเทศ 5. เป็นมูลค่าที่สำคัญของ องค์ประกอบ ผลิตภัณฑ์ประชาชาติ 
4  ความสำคัญของธุรกิจ การเกษตรที่มีต่อภาคเกษตร 1. ก่อให้เกิดการมีงานทำใน การเกษตร 2. ก่อให้เกิดการถ่ายทอด เทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น 3. ก่อให้เกิดการถ่ายทอด เทคโนโลยีการเกษตร 4. ก่อให้เกิดการทำการเกษตรแบบ มีสัญญา (contract farming) 5. ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มในภาค เกษตร 
5  ลักษณะโครงสร้างของ ระบบย่อย ธุรกิจการเกษตรแบ่งเป็น 7 ระบบย่อย คือ 1. ระบบย่อยปัจจัยการผลิต สินค้าเกษตร 2. การผลิตสินค้าเกษตร 3. การจัดหาสินค้าเกษตร 4. การแปรรูปผลิตผลเกษตร 5. การจำหน่ายสินค้าเกษตร 6. การส่งออกสินค้าเกษตร 7. สินเชื่อการเกษตร 
6  ความสัมพันธ์ของระบบย่อยใน ธุรกิจการเกษตร ในแนวดิ่ง 1. ผู้จำหน่ายปัจจัยการผลิตสินค้า เกษตร 2. ตัวกลางค้านธุรกิจ เช่น พ่อค้าคน กลาง 3. ลูกค้า  ความสัมพันธ์ของระบบย่อยใน แนวราบ เป็นการรวมกิจกรรมของระบบย่อย ที่เหมือนกันเข้าด้วยกัน เช่นการ ดำเนินธุรกิจร้านขายอาหารที่ เหมือนกัน และมีการกระจายออกไป เป็นหลาย ๆ สาขาด้วยกัน 
7  การจัดการธุรกิจ การเกษตร การจัดการธุรกิจการเกษตรมี 5 สาขา คือ 1. การวางแผน 2. การจัดองค์กร 3. การสั่งการ 4. การประสานงาน 5. การควบคุม 
8  ความแตกต่างของการ ดำเนินธุรกิจ การเกษตรระหว่าง ประเทศ 2.1 ความไม่เท่าเทียมกันของ ปัจจัยการผลิต 2.2 ความแตกต่างทางด้านถูมิ ศาสตร์ 2.3 รสนิยมผู้บริโภค 2.4 ความต้องการบริโภค อาหารภายใน ประเทศมีปริมาณสูง 
9  โครงสร้างการตลาด สินค้าเกษตรของไทย 1. ตลาดท้องที่ 2. ตลาดรวบรวม ท้องถิ่น 3. ตลาดกลาง ปลายทาง 4. ตลาดขายปลีก 
10  คนกลางในแต่ละ ระดับตลาด 1. คนกลางในตลาด ท้องที่ 2. คนกลางในตลาด ท้องถิ่น 3. คนกลางในตลาด กลางปลายทาง 4. คนกลางในตลาด ขายปลีก